ดีเอสไอ นครบาล เตรียมพร้อมรวบแกนนำแดงหลังเลิกชุมนุม ปัดกวาดสถานที่ควบคุม 6 แห่ง ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส.ว.แฉปรองดองชักเลอะ ดีเอสไอได้รับคำสั่งเลิกค้นบ้านแกนนำแดง แนะรัฐบาลกวาดล้างโรงเรียนแดง 400 แห่งทั่วประเทศ เสนอปิดล้อม ตัดเสบียง ตัดน้ำ ตัดไฟ บีบม็อบเจรจา
เมื่อวันจันทร์ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวหลังการประชุมคณะพนักงานสอบสวน 13 หน่วยงาน เพื่อเร่งรัดคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมของคนเสื้อแดง
พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า ได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการเตรียมความพร้อม นปช.ยุติการชุมนุมไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม และกรณีที่แกนนำ นปช.เข้ามอบตัว ว่าจะต้องดำเนินการเช่นใดบ้าง เนื่องจากแต่ละคนมีคดีความแตกต่างกัน ทั้งคดีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และความผิดตามคดีอาญาหลายข้อกล่าวหา ซึ่งบางคนต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 กรณี
เขายืนยันว่าตำรวจเคร่งครัดในการบังคับใช้กฎหมาย ที่ผ่านมาพยายามจับกุมหลายครั้ง แต่ผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ ส่วนกรณีจับกุมตัวแล้วจะให้ประกันตัวหรือไม่ เป็นอำนาจของศาลในการพิจารณา และขึ้นอยู่กับการประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินด้วย
พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า หากแกนนำ นปช.เข้ามอบตัวที่ไหน ตำรวจก็พร้อมรับมอบตัวทุกสถานที่ และจะนำตัวไปควบคุมยังสถานที่ที่เตรียมไว้ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั้ง 6 แห่ง
ขณะที่นายธาริตกล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยนำญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุสลายการชุมนุม 10 เมษายน เข้าร้องเรียน พร้อมกล่าวโทษนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) รวมทั้งกรรมการ ศอฉ.ทุกคนว่า จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และเป็นมาตรฐานเดียวกัน จะไม่มีการเก็บหรือดองเรื่อง แม้ผู้ถูกกล่าวหาจะเป็นผู้บริหารระดับสูง
สำหรับคดีกล่าวโทษนายกฯ กับสถานีตำรวจต่างๆ นั้น สำนวนที่สอบปากคำผู้เสียหายเสร็จสิ้นแล้ว ตำรวจได้ส่งสำนวนคดีให้ ป.ป.ช. เนื่องจากเป็นความผิดเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ ตามมาตรา 157 ส่วนคดีที่ยังค้างอยู่ที่กองบังคับการตำรวจปราบปรามจะโอนมารวมที่ดีเอสไอทั้งหมด ส่วนการควบคุมตัวนายเมธี อมรวุฒิกุล แนวร่วม นปช.ยังมีความจำเป็น เนื่องจากถือเป็นผู้ต้องหาที่มีอาวุธร้ายแรงอยู่ในการครอบครอง ตลอดจนมีประเด็นที่ต้องสอบสวนเพื่อขยายผลอีกหลายประเด็น
นายธาริตกล่าวว่า หากรัฐบาลยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะดำเนินการอย่างไรกับคดีก่อการร้าย นายธาริตกล่าวว่า หากยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉิน ดีเอสไอก็ไม่สามารถจับกุมหรือแจ้งข้อหาก่อการร้ายแก่ผู้ต้องหาทั้ง 9 คนได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ศาลมีคำสั่งให้ดีเอสไออำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมหลังการจับกุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ได้เดินทางออกจากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11รอ.) ไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อบันทึกเทปเนื่องในวันเกษตรกรแห่งชาติ วันที่ 12 พ.ค. และวันพืชมงคล วันที่ 13 พ.ค. โดยนายกรัฐมนตรีเข้าบันทึกเทปรายการ เวลา 10.00 น. จากนั้นเวลา 10.40 น. นายธาริตและ พล.ต.ต.อำนวยเดินทางมาพบนายกรัฐมนตรี โดยใช้เวลาเข้าพบหารือประมาณ 1 ชั่วโมง
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ศอฉ.มีการเตรียมตั้งข้อกล่าวหากับกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีลักษณะสร้างความรุนแรงเป็นฮาร์ดคอร์เข้าข่ายในข้อหาเป็นผู้ก่อการร้าย จำนวนกว่า 500 คน ซึ่งเตรียมที่จะเสนอดำเนินคดีต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษต่อไปเมื่อการชุมนุมยุติลง โดย ศอฉ.เห็นว่าบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมที่สร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง ดังนั้น จึงถือเป็นข้อหารุนแรงที่ต้องแจ้งความดำเนินคดี
ทั้งนี้ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นำญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมในวันที่ 10 เม.ย. จำนวน 14 ราย ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายธาริตขอให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสลายการชุมนุม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 25 ราย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 800 ราย
ที่ประชุมวุฒิสภาวันเดียวกันนี้ ส.ว.หลายคนได้ลุกขึ้นหารือสถานการณ์การชุมนุมที่ยังไม่ยุติ หลังจากนายอภิสิทธิ์เสนอโรดแม็พปรองดอง 5 ข้อ
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า การชุมนุมยังคาราคาซังอยู่ แม้ว่านายกฯ จะประกาศโรดแม็พปรองดอง 5 ข้อ ตั้งแต่เมื่อค่ำวันที่ 3 พฤษภาคม ตนจึงคิดว่ารัฐบาลต้องมีข้อสรุปอย่างใดอย่างหนึ่งได้แล้ว แม้แผนของนายกฯ 5 ข้อจะระบุว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีอาญาและการนิรโทษกรรม แต่เท่าที่ทราบ การที่มีข้อเสนอออกมาเช่นนี้ก่อให้เกิดความไม่สบายใจ โดยข้าราชการไม่รู้ว่าจะปฏิบัติหน้าที่อย่างไร เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอเมื่อ 2-3 วันที่แล้วมีกำหนดจะไปค้นบ้านพักผู้ต้องหาซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีการชุมนุมจำนวนหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ระงับไป
"เจ้าหน้าที่ได้รับคำสั่งลอยๆ ว่าให้ระงับ เพราะจะกระทบกับบรรยากาศการปรองดอง แต่ไม่รู้ว่าคนสั่งคือระดับใด จริงเท็จแค่ไหน จึงขอให้รัฐบาลชี้แจง" ส.ว.สรรหากล่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.เกริก กัลยาณมิตร ส.ว.สรรหา ขอให้นายกฯ และนายสุเทพกวาดล้างปิดโรงเรียน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ซึ่งมีประมาณ 400 แห่งทั่วประเทศ มาดำเนินคดี เพราะปลูกฝังแนวคิดที่ผิดๆ ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถ้านายกฯ และนายสุเทพทำไม่ได้ ก็ไม่ควรอยู่ในตำแหน่งต่อไป
น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี เรียกร้องให้แกนนำ นปช.ยุติการชุมนุมโดยเร็วและอย่าชักช้าอีก หลังจากที่นายกฯ เสนอแผนปรองดอง เพราะเป็นทางลงที่ดีที่สุด ตนเกรงว่าจะมีเหตุมือที่สามแทรกซึมทำให้ประชาชนล้มตายอีก เหมือนกรณีระเบิดที่สวนลุมพินีเมื่อตอนตี 1 ของวันที่ 8 พฤษภาคม
ด้านนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา เสนอว่า นายกฯ จะต้องหารือกับหน่วยข่าวความมั่นคงเพื่อผลักดันตามแนวทางปรองดอง โดยเฉพาะกรณีที่ระบุว่าจะต้องแยกปลาออกจากน้ำ นายกฯ จะต้องกำหนดเดดไลน์ให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าไปเพิ่มเติมในกลุ่มผู้ชุมนุมอีก โดยจะต้องปิดล้อม ตัดเสบียง ตัดน้ำ ตัดไฟ เพื่อให้เดินหน้านำไปสู่การเจรจาต่อไป.
จาก ไทยโพสต์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น